vip

4.25.2555

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ภาคสมทบ ก็คือภาคพิเศษ แล้วแต่ว่าคณะหรือมหาวิทยาลัยใดจะเรียกอย่างไร


1.ภาคปกติ กับ ภาคพิเศษ เรียนเหมือนกัน มั้ย ??
       Ans. มั่นใจได้ 100% เลยครับว่าหลักสูตร เนื้อหา ตำรา ความรู้ของภาคพิเศษเรียนเหมือนภาคปกติ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เวลาเรียน โดยทั่วไปภาคพิเศษจะเรียนในช่วงเวลาบ่าย ไปจนถึง 2-3 ทุ่ม(แล้วแต่รายวิชา) และในบางคณะเมื่อเรียนชั้นปีที่สูงขึ้น จะมีการจัดเรียนรวมกันทั้ง ภาคปกติ-ภาคพิเศษ

2.เรียนภาคพิเศษ มีสิทธิเท่าเทียมกับการเรียนภาคปกติ มั้ย ??
  Ans. ถ้าสิทธินั้น หมายถึง รายวิชา ความรู้ที่จะได้รับ แน่นอนครับว่าทั้งภาคปกติ-ภาคพิเศษ ทุกคนได้รับสิทธิเท่ากัน (แอบกระซิบนิดนึงว่า บางครั้งภาคปกติ ยังอิจฉาเด็กภาคพิเศษเลยนะ ได้เรียนห้องแอร์เกือบทุกวิชาเลย อิอิ) รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ เช่น รับน้อง ห้องเชียร์ ทุกคณะทุกมหาลัย พี่เชื่อว่ามีการจัดการดูแลน้องๆ ได้ทั่วถึง และเท่าเทียมอย่างแน่นอน

3.จริงหรือไม่ เมื่อจบแล้วภาคปกติ ได้งานมากกว่า ภาคพิเศษ ??
  Ans. ไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหน บริษัทใด ล้วนแล้วแต่ต้องการบุคลากรที่เก่ง ดี มีคุณภาพ และมักจะมีที่ว่างเสมอสำหรับคนที่มีความพร้อม ที่จะเข้ามาสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ตัวอย่าง สมมติ นาย ก.จบภาคปกติ เกรดสูง +ไม่ค่อยร่วมกิจกรรม VS นาย ข. จบภาคพิเศษเกรดสูง+ร่วมกิจกรรมสม่ำเสมอ ฉะนั้นเรียนจบ ภาคพิเศษ ไม่เป็นอุปสรรคในการหางานเลยครับ เป็นคำตอบสุดท้าย!!! 

4.สามารถย้ายจาก ภาคพิเศษ ไปเรียน ภาคปกติ ได้มั้ย ??
  Ans. แล้วแต่ละคณะครับ หากสามารถย้ายได้ทางคณะจะออกระเบียบการว่ามีเกณฑ์อย่างไรบ้าง เช่น เกรดเฉลี่ย จำนวนหน่วยกิต เป็นต้น (ถ้าเข้าไปเรียนแล้วต้องการย้ายจริงๆ ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้นปีเลยครับ)

5.ค่าเทอม แพงกว่าภาคปกติ ?
       Ans. ใช่แล้วครับ ประมาณ 1-2 เท่าของภาคปกติขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย ว่าจะเก็บเป็นค่าบำรุงมหาวิทยาลัย ค่าอาจารย์ผู้สอนในเวลารอบพิเศษ ส่วนนี้ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ ว่าโอเคกับค่าเทอมไหม

 
ไขคำถาม ภาคพิเศษ ^__^

  ภาคพิเศษมีแต่คนแก่ -> วัยรุ่นก็มีครับ เยอะมากด้วย หล่อๆ สวยๆ เพียบ!!
 เข้าง่ายกว่า ภาคปกติ -> เรียกว่าเป็นการเปิดโอกาสเพิ่มให้กับเด็กๆ และคนที่สนใจเข้าเรียนดีกว่านะครับ บางมหาวิทยาลัย ภาคพิเศษ ก็ยากพอตัวนะครับกว่าจะเข้าได้ ปาดเหงื่ออยู่เหมือนกัน อิอิ

  โดนเหยียด จากเด็กภาคปกติ -> เพราะทั้ง 2 ภาคเรียนเหมือนกัน เรื่องการเหยียดกันแทบจะไม่มี หรือมีก็น้อยมาก แต่ถ้าใครเจอเหตุการณ์ไม่ดีเช่นนั้นจริงๆ ก็ต้องสู้โดยพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเด็กภาคพิเศษเรียนดี กิจกรรมเด่น ก็มีมากนะครับ สู้สู้ 

  มีรับน้องไหม -> มีเหมือนกันครับ อาจจะแยกรับภาคปกติ/พิเศษ แต่ห้องเชียร์เข้าเหมือนกันครับ ถ้าไม่ชนกับเวลาเรียน

        การแต่งกาย -> บางคนถามว่า “หนูเรียนช่วงค่ำนอกเหนือเวลาราชการ ต้องใส่ชุดนักศึกษาไหมคะ?” เปิดเทอมในช่วงแรก ควรจะเป็นชุดนักศึกษาอย่างยิ่งครับ(สะดวกในการติดต่อราชการด้วย ปี1 อาจวุ่นๆ เรื่องเอกสารบ้าง) ผ่านช่วงเปิดเทอมใหม่ไปแล้ว อาจารย์แต่ละวิชามักจะชี้แจงเองเลยครับ ว่าอนุญาตให้ใส่ชุดไปรเวทมาได้แต่เน้นว่าต้อง สุภาพ.!! โดยทั่วไปคือ 1.เสื้อเชิ้ต 2.กางเกงขายาว 3.รองเท้าหุ้มส้น 4.กระโปรง ไม่ควรเหนือเข่า แต่งกายเรียบร้อย ยังไงก็น่ารักสมวัยครับ

        รับปริญญา -> ใบปริญญา ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ รูปแบบเดียวกันครับ ไม่มีตรงไหนบอกว่า ใครจบภาคพิเศษหรือภาคปกติ

        การตัดเกรด -> ถ้าตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม บางครั้งตัดร่วมกันทั้ง 2 ภาค แต่จะมีบางรายวิชาที่ตัดเกรดแยกภาค ขึ้นอยู่กับคณะอาจารย์ผู้สอน ส่วนการตัดเกรดแบบ อิงเกณฑ์ โดยทั่วไปตัด A ที่ 80 คะแนน F ที่ 49 คะแนน (แต่ไม่แน่นอนนะครับ) บางครั้งตัด A ที่ 85-90 คะแนน ตัด F ที่ 45 คะแนน  แต่สบายใจได้เพราะใน คาบเรียนแรก อาจารย์จะแจกคอร์สซิลิบัส ชี้แจงรายละเอียดรายวิชาไปจนถึงเกณฑ์การให้คะแนนในการตัดเกรด จะได้เตรียมตัวล่วงหน้าคร้าบบบบ

         ฝึกงาน -> ปี3 – 4 เข้าสู่โหมดฝึกงาน มีบางคณะที่ไม่จำเป็นต้องฝึกงาน แต่โดยส่วนมากมักจะมีวิชาฝึกงาน ซึ่งถ้าภาคปกติมี น้องๆ ภาคพิเศษก็ต้องมีครับ และไม่เกี่ยวด้วยว่า เรียนภาคพิเศษต้องฝึกงานในช่วงค่ำเหมือนที่เราเรียน
 อาจารย์ -> อาจารย์ผู้สอนอาจเป็นคนละคนกับภาคปกติ แต่วิชาที่เรียนหลักสูตรเหมือนกันแน่นอนครับ ขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัยจะหาอาจารย์ที่มีเวลามาสอนได้ 

 กลุ่มเพื่อน -> “เพื่อนฟุ่มเฟือย เพื่อนฟุ้งเฟ้อ เพื่อนเกเร” มีเยอะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเพื่อนที่ดี อย่าวิตกกังวลจนเกินไปครับ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทั้งภาคปกติ/พิเศษ ทุกคณะ ทุกมหาวิทยาลัย

กด Like แล้วติดตามการอัพเดตได้ในหน้าแรกFacebook ตลอด "รับตรง@Admissions"

ติดต่อ-สอบถาม พูดคุยกันจ้า