9.13.2554
ทำไมเด็กไทยต้องเรียนพิเศษ
โดยเฉพาะนักเรียนชั้นมอหกที่กำลังจะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย แล้วทำไมนักศึกษาในมหาลัยไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษ หรือแทบไม่มีใครเรียนกันเลยทีเดียวด้วยประสบการณ์ที่เคยเรียนอยุ่ชั้นมอหก ส่วนตัวคิดว่าแยกออกเป็นสองประเด็น
หนึ่งเรียนเพื่อที่จะสอบเข้ามหาลัยอาจเป็นเพราะ
หนึ่ง เด็กมอหกไม่ตั้งใจเรียนในห้อง แล้วทำให้คิดว่าหนูค่อยไปตั้งเรียนในที่เรียนพิเศษก็ได้(แล้วทำไมหนูไม่ตั้งใจเรียนตั้งแต่ครั้งแรก? มันเสียเวลา)
สอง เด็กมอหกคิดว่าเนื้อหาที่ครูสอนในห้องเอาไปใช้ไม่ได้ จริงๆแล้วเอาไปใช้ได้หมดถ้ารุ้จักระยุกต์โดยเฉพาะวิชาสังคม ถ้าคุณอ่าน ถ้าคุณตั้งใจฟังตอนอาจารย์พากษ์ คุณแทบไม่ต้องไปเรียนกวดวิชาเลยด้วยซ้ำ
สาม เด็กมอหกคิดว่าการเรียนพิเศษคืองานหลัก ส่วนการเรียนในห้องเรียนคืองานอดิเรกจะเห็นได้ว่าเริ่มเปิดเทอมใหม่ๆจะมีเพื่อนมาเรียนไม่ครบเพราะติดเรียนพิเศษอยุ่ ทิ้งการเรียนในห้องไปเรียนพิเศษเนี้ยน่ะ
สี่ การที่เด็กมอหกไปเรียนพิเศษแบบรวมยอดถือว่าเป็นการประหยัดเวลามากๆๆไม่ต้องมานั่งสรุปเนื้อหาเองแล้วก้อจะตรงจัดในการทำข้อสอบมาก ในทางกลับกันแล้วเรียนในห้องเรียนหล่ะ
ถ้าคุณเก็บถ้าคุณจดจำเนื้อหาในแต่ละวิชาของแต่ละภาคเรียนได้คุณก้อไม่จำ เป็นต้องไปเรียนกวดวิชาอะไรเลย นักเรียนหลายคนบอกว่าครุสอนในห้องเรียนไม่ครอบคลุม
คือจริงๆแล้วมันครอบคลุมแหละ แต่พวกนักเรียนเก็บไม่หมดเอง ไม่สนใจเอง พวกชีทพอหมดเทอมก้อเก็บขาย ไม่ก้อเผาทิ้ง พอขึ้นมอหกก้อตะล่อนออกเรียนพิเศษกันทั่วเมือง
ถามว่าดีมั้ยเรียนพิเศษเนี้ย ตอบว่าดีมาก แต่คุณจะตั้งใจเรียนมั้ยหล่ะ
คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าเรียนพิเศษแล้วคุณจะแอดติด คุณจะสอบตรงได้ เกือบจะทุกคนที่เรียนพิเศษบางคนโดดเรียน บางคนหลับ บางคนเล่นเกม บางคนม้กะเพื่อน บางคนไม่ตั้งใจเรียน
อยากจะถามว่าพวกคุณไปเรียนให้ได้อะไรขึ้นมา ทุกครั้งที่ไปดูหนังจะเหนเด็กมอต้น มอปลาย แบกกระเป๋าแล้วก้อขึ้นไปจองตั๋วหนัง นี่เหรอที่บอกพ่อแม่ว่ามาเรียนพิเศษ
นี่เหรอที่เอาตังพ่อแม่เป็นไม่รุ้กี่หมื่นมาเรียนพิเศษ ใช่หนังอะดูได้แต่เค้าส่งมาให้เรียนพิเศษกันน่ะ ควรเอาเวลาพวกนี้ไปทบทวนบทเรียนไม่ดีกว่าหรอ ยิ่งช่วงเวลาปิดเทอมบางนี้บางคนเรียนจนไม่เคยพบกะแสงแดดไปเรียนตั้งแต่เช้า กลับบ้านค่ำมืด เรียนมันทั้งวัน ไม่เบื่อ ไม่เหนื่อยบางหรอ?
พอเหนื่อยเข้ามากๆๆกลับบ้านมาก้อค่ำอาบน้ำ กินข้าว นอน ตื่นมาอีกที อาบน้ำ กินข้าว ไปเรียน ป็นอยุ่แบบนี้เกือบสองเดือนสำหรับนักเรียนที่เรียนพิเศษช่วงปิดเทอม
บางคนเรียนพิเศษ และคนค่าเรียนพิเศษตกคนละ สองถึงสามหมื่นไม่ได้เรียนกะอาจารย์สอนตัวต่อตัว แต่เรียนกับพี่ทีวี ช่างเป็นอะไรที่น่าสนใจเยี่ยงเน้แต่ก้อแลกทำไมในห้องคุยกันจัง แต่พอมีครุอย่างพี่ทีวีสอนตั้งหน้าตั้งตาฟังกันจัง
เดวนี้ค่านิยมเปลี่ยน มเป็นนักเรียนก้อเปลี่ยนไป เรียนพิเศษอะดีแต่คุณต้องเลือกเรียนให้เป็นด้วยเรียนแล้วต้องกลับมาทบทวน ต้องทำแบบฝึกหัด ต้องตั้งใจเรียน ให้สมกะค่าเรียนที่มันแพงหูฉี่
สำหรับตัวเองก้อเคยเรียนพิเศษเหมือนกันแต่เป็นการเรียนพิเศษที่โคตรราคาถูก วิชาละสี่ร้อย ไปเรียนที่ กทม เรียนฟิสิกส์ เคมี อังกฤษ คณิต พวกแกทเชื่อมโยงเรียนประมาณเดือนกว่า ที่ไปเรียนที่นี้ก้อเพราะไม่มีตังเรียนกะสถาบันดังๆ ฮ่าๆๆๆ
สงสารพ่อแม่ไม่อยากขอตังเยอะเยอะแบบนั้น ไม่อยากเอาความไม่แน่นอนที่ว่าเรียนพิเศษกะสถาบันดังแล้วจะแอดติด แล้วก็ขอแม่เรียนแคลกะเดอะเบรนคอร์สหนึ่ง สองพันกว่าบาทมั้งเพราะว่าอาจารย์สอนในห้องโคตรไม่รุ้เรื่อง ผลสรุปออกาว่าถึงกุจะเรียนพิเศษมาแล้วเกรดุก้อยังคงที่ที่ สองจุดห้า ฮ่าๆๆๆเรื่องแบบนี้มันยุที่ตัวผู้เรียนแล้วหล่ะม๊างงงงง
จากที่สำรวจเพื่อนในห้องมาเราเป็นคนคนหนึ่งที่ออกเงินค่าเรียนพิเศษน้อยมาก แต่ได้เกือบทุกวิชา ไม่ได้ค่าโปรโมตแต่อยากบอกว่าที่ที่เราไปเรียนคณิตเค้าโคตรเจ๋งส่วนตัวคิด ว่าเจ๋งกว่าเดอะเบรนซะอีก
เพราะพี่ที่ไปเรียนเปนนิสิต ฬ คณะวิศวะปิโตร เทพมากถึงขั้นคิดสูตรเองวิธีการสอนก้อสนุกไม่เคยหลับ อีกคนหนึ่ง็นพี่ที่มกจากอักษร ฬ เหมือนกันพี่แกเป็นกระเทยไม่มีหลับเหมือนกัน สนุกมาก จำได้หมดทุกตัวที่พี่แกสอนเพราะพี่แกบังคับให้ท่องทุกอันที่เรียนมาก่อนสอน อันอื่น นั่นคือติวปึ๊ก เทพจริงๆค่สองวิชานี้เท่านั้นน่ะ ส่วนวิชาอื่นๆเหอะๆๆไม่ต้องไปเรียนหรอก หรือจะไปเรียนกะสถาบันอื่นกะได้
เรียนพิเศษคือเส้นทางลัดของผู้แข่งขันในสนามแอดมิชชั่น
ไม่มีใครรับประกันได้ว่าถ้าคุณเรียนพิเศษกะสถาบันนี้แล้วคุณจะแอดติดแล้วก้อไม่ใครรับประกันไว้ด้วยว่าถ้าคุณอ่านหนังสือเองยุที่บ้านคุณจะแอดไม่ติด
ส่วนตัวแล้วคิดว่าพวกวิชา สังคม กะ ภาษาไทย แล้วก้อชีว่ะไม่ต้องไปเรียนหรอกแค่ซื้อหนังสือมาอ่าน ตั้งใจเรียนในห้อง คุณก้อทำคะแนนได้สุงกว่าพวกที่ไปเรียนมาอีก
ส่วนพวกคำนวณไปซื้อหนังสือที่เป็นโจทย์มาทำให้เยอะๆคุณก้อเทพได้
ส่วนภาษาอังกฤษขอแค่ท่องศัพท์เยอะเยอะแล้วก้อเข้าใจพวกแกรมม่าที่มันสำคัญๆ คุณก้อทำแกทได้มากกว่าแปดสิบคะแนนแล่ว
ที่สำคัญแอดติดไม่ติดมันแค่เรื่องเล็กๆที่ผ่านเข้ามาแล้วก้อผ่านออกไป
ชีวิตมันได้มีแค่เรื่องแอดอย่างเดียว พวกที่แอดติดแล้วยังจะต้องกลุ้ม ต้องเครียดอีกว่า จะไปยุที่ไหนจะไปยุกะใคร จะเรียนได้มั้ย จะจบอีกมั้ย พอเรียนจบมาแล้วเครียดอีก กุจะมีงานทำมั้ยว่ะกุจะสอบบรรจุได้มั้ยว่ะ พอมีงานทำเครียดอีก กุจะขึ้นคานมั้ยว่ะ เห้ยยยนี่มันเรื่องใหญ่นะเว้ย
ฮ่าๆๆๆ พอมีครอบครัวเครียดอีกกุจะมีลุกกี่คนดีว่ะ กุจะเลี้ยงลุกได้มั้ยว่ะลุกกุจะสอบติดมั้ยว่ะ เครียดเข้าไปใหญ่ สักวันความตายมาถึง หายเครียดกันเลยทีเดียว
บางคนไม่สนที่เอ็นไม่ติดจุฬาคิดว่าโชคดีหนักหนาเท่าไหร่แล้วที่มีบุญได้เกิดมา"