9.09.2554
คำแนะนำในการเรียนมหาวิทยาลัยครับ
สวัสดีครับน้อง พี่เคล็ดลับหรือเทคนิคการเรียนในมหาวิทยาลัยมาฝากน้องๆ ที่กำลังจะสอบเข้าและรับตรงเข้ามหาวิทยาลัยกันนะครับ การเรียนในมหาวิทยาลัยเหมือนกับการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เพราะแต่ละสาขาก็จะเรียนไม่เหมือนกัน ในสาขานั้นๆ ก็จะเรียนในด้านนั้นๆ มากขึ้น
การเรียนมหาวิทยาลัย น้องๆ จะต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยไม่เหมือนกับการเรียนมัธยม ที่อาจารย์จะคอยมาเช็คชื่อว่าใครขาด หรือไม่ขาด เพราะการเรียนมหาวิทยาลัยบางวิชาต้องเรียนรวมกันเป็นเซคใหญ่ๆ คนก็เยอะ น้องๆ จะต้องเพิ่มความรับผิดชอบมากขึ้นอีก กิจกรรมในมหาวิทยาลัย ใครว่าไม่สำคัญ ใครบอกว่าเข้ามหาวิทยาลัยแล้วต้องเรียนๆๆๆ อย่างเดียว พี่ว่าไม่ใช่ กิจกรรมนี่ล่ะตัวสำคัญเลย ที่จะช่วยให้น้องๆ ได้เพื่อนใหม่ ได้ความรู้ ประสบการณ์ที่บางครั้งในวิชาเรียนไม่มี กิจกรรมในมหาวิทยาลัยมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การออกค่าย ,กิจกรรมของแต่ละคณะ เป็นต้น พี่ว่าคนเราไอคิวจะดีอย่างเดียวไม่ได้ อีคิวต้องดีด้วย
เพื่อน เป็นสิ่งสำคัญในการเรียนเช่นเดียวกัน เพราะเราเข้ามาเรียน เท่ากับว่าเราก็ต้องนับ 1 ใหม่หมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือเรื่องสังคม ในมหาวิทยาลัยมีคนหลายประเภท ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับน้องๆ ว่าน้องๆ จะเลือกคบเพื่อนกลุ่มไหน (พี่เคยได้ยินว่า เพื่อนในมหาวิทยาลัยดีๆ หายาก ไม่เหมือนเพื่อนมัธยม จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เพื่อนๆ ดีก็มี เพียงแต่เราต้องเปิดใจยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนเป็นอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับน้องๆ แล้วว่าน้องจะเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวของน้องเองหรือเปล่า)
สิ่งสำคัญ!! ที่อยากเตือนน้องๆ ทุกคนไว้ก็คือ การเรียนน้องๆ จะทิ้งไม่ได้ ประมาณว่า ปี1 พึ่งเข้าเรียนๆ เล่นๆ ไป ค่อยไปขยันเอาเทอมหน้า ปีหน้า มันไม่ได้เป็นอย่างที่น้องๆ คิดเลย ถ้าแรกๆ น้องไม่ตั้งใจแล้วมาตั้งใจตอนหลัง เกรดมันก็จะไม่เป็นอย่างที่น้องต้องการเลยทีเดียว (ถ้าคนที่กังวลเรื่องเกรด พี่แนะนำ ตั้งใจเรียนไปก่อน เพราะเทอมแรกๆ ช่วยเราได้เยอะเลย)
นอกจากนี้แล้ว พี่อยากให้น้องๆ ได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองว่าชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นเป็นอย่างไร พี่ว่ามันสนุกกว่าตอนเรียนมัธยมอีกนะ เราได้เรียนรู้เรื่องบางเรื่องที่ในห้องเรียนไม่มี เรียนรู้สิ่งที่มันเกิดขึ้นจริงกับโลกภายนอก เรียนรู้ว่าสิ่งนั้นเราจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ เคยมีคนบอกกับ พี่ว่าการเรียนเป็นสิ่งที่สบายนะ ถ้าเทียบกับการทำงาน ชีวิตจริงๆ ของคนจะเริ่มต้นขี้น เมื่อเราได้ทำงาน สิ่งๆ ดีที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยยังมีอีกเยอะ ภายในเวลา 4 ปี (หรือบางคนอาจจะมากกว่านั้น) ตักตวงไว้ให้เยอะๆ แล้วน้องๆ จะรู้ว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากเลย
