5.10.2556
ผล Admission มื่อประกาศไปแล้วเชื่อว่าจะมีทั้งผู้ดีใจ สมหวัง และพลาดหวังเสียใจ เมื่อทราบผลแต่เชื่อมั่นว่าพ่อแม่ผู้ปกครองจะดูแลลูกหลานของตนเองเต็มที่ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ อยากจะแนะว่าแนวทางสำหรับดูแลจิตใจเด็กที่พลาดจากแอดมิชชั่นคือ พ่อ แม่ต้องให้กำลังใจ อย่าพูดจาหรือแสดงท่าทางผิดหวัง คอยเป็นเพื่อน อย่าดุด่าเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น นอกจากนี้ เพื่อน หรือกลุ่มเพื่อนที่สอบได้ ต้องช่วยกันปลอบให้กำลังใจเพื่อนคนที่สอบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การสอบไม่ได้ก็ถือเป็นโอกาสหนึ่งในชีวิตที่จะเรียนรู้กับความผิดหวัง
จากการสัมภาษณ์อธิบดีกรมสุขภาพ จิตได้กล่าวว่า "ระบบการศึกษาในปัจจุบันมีการเปิดกว้างมากขึ้น สถาบันระดับอุดมศึกษามีมากขึ้น ทำให้นักเรียนนักศึกษามีโอกาสศึกษาต่อเพิ่มขึ้น เป็นการลดความกดดันจากหลายปีก่อนที่มหาวิทยาลัยมีไม่กี่แห่ง อีกทั้งการเลือกคณะก็เปลี่ยนแปลงจากแต่ก่อน เด็กเก่งไม่เลือกแพทย์ แต่หันไปเลือกสาขาวิชาอื่น ๆ เช่น วิศวะ นิติศาสตร์ นิเทศศาสตร์ แทน โอกาสในการเลือกสาขาเรียนจึงไม่ดุเดือด"
ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิต เปิดสายด่วนโทร 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต โดยใช้โทรศัพท์พื้นฐานโทรได้ทั่วประเทศ
สำหรับแนวทางง่าย ๆ ที่อยากจะแนะนำเพื่อช่วยประคับประคองให้เราอยู่ได้ท่ามกลางความเครียด ความสับสน ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราก็เป็นเรื่องที่หลาย ๆ ท่านก็คงรู้อยู่ เพียงแต่จะพยายามรวบรวมให้เป็นหมวดหมู่เรื่องเดียวกันให้มากขึ้นเท่านั้น ลองพิจารณาดูนะคะ
- ตั้งสติกับตัวเองให้ได้ เวลาที่คนเราเกิดความเครียด หลายคนมักจะตั้งตัวไม่ทันปล่อยใจไปกับสิ่งเหล่านั้น คิดไปกับสิ่งเหล่านั้น ผลที่เกิดขึ้นก็คือในสมองจะมีแต่ความวิตกกังวล ไม่มีสมาธิที่จะทำอะไร อันนี้คงต้องรีบบอกรีบเตือนตัวเอง ตั้งหลักตั้งใจกันใหม่ ค่อยๆพิจารณาดูว่าข้อดี ข้อเสียที่เรากำลังจะตัดสินใจทำลงไปนั้น มีอะไรบ้าง เรารับได้หรือไม่กับผลเสียที่จะตามมา ทำไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วจึงค่อยๆทำลงไป อย่าปล่อยให้อารมณ์พาไปค่ะ
- อยู่กับปัจจุบันให้มาก ที่สุด หลายครั้งที่ความเครียดเกิดจากความวิตกกังวลว่าอนาคต หรือวันต่อไปจะเป็นอย่างไร อนาคตจะเป็นอย่างไรก็คงต้องปล่อยมันบ้าง รอไว้ให้มันเกิดขึ้นจริงๆ ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ทำวันนี้ ตอนนี้ให้ดีที่สุด อยู่กับปัจจุบัน กับตัวเราให้มากที่สุดดีกว่าค่ะ
- ยืดหยุ่นกับชีวิตตนเอง ให้มากขึ้น คนเราจะมีความคาดหวังได้บ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่การยึดติดอยู่กับความคาดหวัง มากเกินไป จะเป็นตัวบั่นทอนสุขภาพจิตเราได้ง่ายๆ ชีวิตทุกคนก็มีสมหวัง ผิดหวังกันได้ สลับกันไป มีได้อย่างหนึ่งก็มักจะต้องเสียอย่างหนึ่ง จะให้ได้ทั้งหมดโดยไม่มีเสียเลยคงจะลำบาก เผื่อใจไว้บ้างกับความ ผิดหวัง ลองคิดดูให้ดีสิครับ ความผิดหวังคงไม่ทำให้ถึงกับชีวิตจะดำเนินต่อไปไม่ได้หรอก เพียงแต่อาจจะรู้สึกแย่ หรือเสียความรู้สึกบ้างเท่านั้นเอง
- ลดคำถามที่ขึ้นต้นกับตน เองว่า "ทำไม" ให้น้อยลงบ้าง ทางที่ดีอาจจะลองหยุดคำถามเหล่านี้ แล้วลองถามกับตัวเองว่าแล้วทำไมสิ่งต่างๆจะต้องเป็นแบบที่เราต้องการด้วย อาจจะดีกว่า อาจทำให้เข้าใจความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น
- มั่นใจในตัวเองให้มาก ขึ้น บางคนค่อนข้างกลัวในเรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ค่อยกล้าทำอะไร กลัวว่าทำไปแล้วจะไม่ดี จะไม่เป็นที่ถูกใจของคนอื่น จริงๆแล้วถ้าคิดกันให้ดีๆว่าที่เรานั้นคอยกลัวอยู่เรื่อยว่าคนโน้นจะว่า อย่างนี้ คนนั้นจะว่าอย่างไรนั้น มันก็คือความกลัวต่อความคิดของเราเองทั้งสิ้น คิดเองแล้วก็กลัวเองอยู่ คนเดียว เอาชนะใจตัวเองให้ได้ค่ะแล้วหลายๆอย่างจะดีขึ้นตามมา
อีกเรื่องหนึ่ง ที่คิดว่ามีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าที่กล่าวไปข้างต้น ก็คือ การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก จิตใจที่แจ่มใส พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ นั้น มักจะอยู่คู่กับร่างกายที่สมบูรณ์ เป็นเสมือนภูมิต้านทานให้แก่กันและกัน การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เต็มที่ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆ ที่จะมีผลเสียหรือเป็นโทษต่อร่างกายเหล่านี้จะช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์ เป็นหลักที่มั่นคงสำหรับจิตใจ เพื่อที่จะเผชิญกับความเครียดในวันต่อไปข้างหน้าได้
การเรียนให้ประสบความ สำเร็จไม่ได้วัดจาก Admission เป็นที่สุดท้าย Admission เป็นเพียงแค่ด่านหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีทางเลือกและประตูอีกหลายทางที่เราสามารถเลือกเปิดและเข้าไปสัมผัส ได้กับประสบการณ์ต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งจะสำเร็จไม่สำเร็จนั้นอยากให้น้อง ๆ วัดจากการปรับตัวให้มีความสุขกับการเรียนและการทำงาน ณ ปัจจุบันจะดีกว่าเพราะหากชีวิตเรามีความสุขความสบายใจแล้วล่ะก็อะไร ๆ ก็ดีทั้งนั้นค่ะ